ชุดตรวจ Rapid Test เป็นการตรวจอะไร
ชุดตรวจ Rapid Test การเข้ารับการ ตรวจหาเชื้อเอชไอวี หรือ เอดส์นั้น จะทำให้เรารู้ทราบถึงสถานะเลือดของตัวเอง ซึ่งทุกคนก็รู้ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโรคเอดส์นั้นมีสาเหตุมาจาก
การติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ซึ่งเป็นต้นเหตุ ที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน ภายในร่างกาย เกิดการบกพร่อง และถูกทำลายลง จึงทำให้ผู้ป่วย ที่ติดเชื้อมีสภาพร่างกาย ที่อ่อนแอจนอาจเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่าย
และอาจนำไปสู่ การเสียชีวิตลงได้
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการไหน ที่สามารถรักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ มีเพียงแต่ยาที่ช่วยในการชะลอการพัฒนาของเชื้อและลดอัตราความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตลงด้วยโรคเอดส์
ดังนั้น หากรู้ตัวหรือ ไปได้รับความเสี่ยงมา ทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณคลายความกังวลใจได้ คือ การตรวจคัดกรองเพื่อหาสาเหตุของการติดเชื้อ เพราะหากตรวจเจอตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะได้เข้ารับการรักษา
และรับยาต้านได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
– การตรวจแบบ Anti-HIV antibody วิธีการตรวจนี้ เป็นการตรวจหา เชื้อไวรัสเอชไอวี ตรวจหาภูมิต้านทาน ต่อเชื้อเอชไอวี ซึ่งจะทำการตรวจ ผ่านทางเลือด โดยจะมีการวินิจฉัย การทำงาน
ของระบบภูมิต้านทาน ในเซลล์เม็ดเลือดขาว ที่มีต่อเชื้อเอชไอวี และสามารถ ตรวจพบเชื้อ ได้ภายในเวลา 3 สัปดาห์ จนถึง 3 เดือน
– การตรวจแบบ NAT (Nucleic Acid Testing) วิธีการตรวจนี้ เป็นการตรวจหา สารพันธุกรรม ของเชื้อเอชไอวี ด้วยการตรวจ ปริมาณของเชื้อ และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ภายในร่างกาย
วิธีการนี้ แพทย์มักใช้ ในกรณี ที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อสูง เนื่องจากการตรวจ ด้วยวิธีการนี้ มีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง จึงสามารถ ตรวจพบเชื้อได้ใน 1-4 สัปดาห์
หลังจากได้รับเชื้อมาแล้ว
– การตรวจแบบ PCR (Polymerase Chain Reaction) เป็นการตรวจหาสารพันธุกรรม ในระดับอณูชีวโมเลกุล วิธีการนี้สามารถตรวจได้ในเด็กทารกที่อาจได้รับเชื้อเอชไอวีจากมารดา
ในช่วงอายุประมาณ 1 เดือน และใช้ตรวจกับผู้ใหญ่หลังจากที่ได้รับความเสี่ยงมาแล้วประมาณ 14 วัน จึงจะสามารถตรวจพบเชื้อ
ปัจจุบัน มีการพัฒนา วิธีการตรวจเอชไอวี โดยใช้เทคนิค การตรวจหาแอนติบอดี หรือตรวจได้ทั้งแอนติบอดี และแอนติเจน ให้อยู่ในรูปแบบ ชุดตรวจเอชไอวี Rapid Test ซึ่งเป็นการตรวจ แบบรวดเร็ว
ใช้งานง่าย สามารถรู้ผลได้ ภายในไม่กี่นาที นำมาใช้ในการตรวจ คัดกรองผู้ป่วย อีกทั้ง มีการนำมาสู่ การตรวจคัดกรองเอชไอวีด้วยตนเอง ยังเป็นวิธี ที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม
ของผู้ ที่ไม่กล้าเดินทางไปตรวจ ตามสถานพยาบาล หรือคลินิก
เพราะ ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง จะมีความรวดเร็ว ในการตรวจ สามารถให้ ผลตรวจ ได้อย่างแม่นยำ และรวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียง 5-15 นาที เท่านั้น การมีชุดตรวจเอชไอวี ด้วยตนเองนั้น
เพื่อเป็นทางออก ให้แก่ผู้ที่มีความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อเอชไอวี
เพราะผู้ที่มีความเสี่ยง จะมีความกังวลใจ สูงมาก ๆ และอีกทั้ง ยังไม่กล้า ที่จะเปิดเผยตัวตน ของตนเองให้สังคมได้รับรู้ เพราะเกรงว่า สังคมจะเกิด การรังเกียจ และปฏิบัติ ต่อตนนั้นไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ การมีชุดตรวจเอชไอวี ด้วยตนเอง ทำให้ผู้ที่มีความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อ สามารถตรวจเจอเชื้อ ได้อย่างรวดเร็ว และไม่ปล่อย ให้ตนเองนั้น มีอาการ หรือพบเชื้อ ในระยะที่รักษาลำบาก
เพราะยิ่งตรวจเจอเร็ว ยิ่งเข้ารับ การรักษาได้ง่าย มีคุณภาพชีวิต ที่ดียิ่งขึ้น และใช้ชีวิตอ ยู่ร่วมกับคนในสังคม ได้ตามปกติ อีกทั้ง เพื่อเป็นทางเลือก ให้แก่ประชาชน สามารถเข้าถึงได้ง่าย
เพราะหากเดินทาง ไปตรวจตาม สถานพยาบาล อาจจะมีค่าใช้จ่าย ที่สูงกว่า