วิธีสังเกตคนเป็นเอดส์ โรคเอชไอวี (HIV) เป็นสาเหตุที่นำไปสู่การเกิดโรคเอดส์ (AIDS) ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกโรคหนึ่งที่ถือว่ามีความร้ายแรงเป็นอย่างมาก เพราะรักษาไม่หายขาด
คนส่วนใหญ่มักจะไปมีเพศสัมพันธ์กันโดยไม่สวมถุงยางอนามัย จนก่อให้เกิดการติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคอื่น ๆ ขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม หรือโรคอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
หลายคน ๆ อาจรู้จักกันเป็นอย่างดีว่า เชื้อไวรัสเอชไอวีนั้นจะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้บกพร่อง หากไม่ทำการรักษาเชื้อเอชไอวีก็อาจพัฒนาไปสู่ระยะเอดส์ได้ ดังนั้น เมื่อเชื้อเอชไอวีได้เข้าสู่ร่างกายเชื้อจะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว (CD4) ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำลง และมีโอกาสในการเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม ทางเดียวที่จะรู้ว่าเราติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ คือ การเข้ารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวี เพราะหากตรวจพบเชื้อตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็มีโอกาสในการรักษาโรคเอชไอวีไม่ให้พัฒนาไปสู่โรคเอดส์ได้
– ในช่วงแรก ๆ ผู้ป่วยบางรายอาจมี อาการผิดปกติเล็กน้อย และอาการเหล่านั้น ก็จะหายไปเอง ที่ประมาณ 14-28 วัน ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการคล้าย ๆ กับเป็นไข้หวัดใหญ่
เช่น มีไข้ ปวดหัว เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ และต่อมน้ำเหลืองโต
โดยระยะนี้เป็นระยะที่ค่อนข้างทำการวินิจฉัยได้ยาก จึงต้องใช้วิธีการตรวจเลือดจึงได้ผลที่ชัดเจนมากที่สุด
– ต่อมาผู้ป่วยบางรายอาจมีการแสดงอาการที่ชัดเจนมากขึ้น แต่อาการจะไม่รุนแรงมากนัก
เช่น มีเชื้อราตามช่องปาก วัณโรค งูสวัด และแผลเริม เป็นต้น โดยเชื้อเอชไอวีจะแทรกตัวอยู่ในต่อมน้ำเหลือง และทำลายระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายให้บกพร่อง และไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้
– เมื่อเข้าสู่ช่วงระยะเอดส์ ในระยะนี้จะเป็นระยะสุดท้าย ของการติดเชื้อ เอชไอวี ซึ่งเป็นระยะที่ภูมิคุ้มกัน ในร่างกายได้ถูก ทำลายลง จนเสียหายอย่างหนัก ทำให้ร่างกายของผู้ป่วยนั้น มีโอกาสติดเชื้อ และเจ็บป่วย ได้ง่าย และเสี่ยงต่อ การเสียชีวิตลง เนื่องจาก อาการแทรกซ้อนได้ ผู้ป่วย ในระยะนี้จะแสดงอาการ ที่รุนแรง ออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน
เช่น น้ำหนักลดลงอย่ารวดเร็ว ท้องร่วงเรื้อรัง มีไข้เรื้อรัง เยื่อบุสมองอักเสบ และต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม วิธีสังเกตคนเป็นเอดส์ ง่าย ๆ คือ ผู้ป่วยจะรู้สึกเหนื่อย ผิดปกติ น้ำหนักลดลง อย่างรวดเร็ว มีเหงื่อออกตอนกลางคืน สูญเสีความทรงจำ มีผื่นขึ้นตามร่างกาย เปลือกตา หรือ อาจมีแผลขึ้น ตามอวัยวะเพศ เป็นต้น
แต่ไม่ว่าอย่างไร อาการผิดปกติที่ เกิดขึ้น อาจจะเป็นอาการป่วย ด้วยโรคอื่น ๆ ไม่สามารถยืนยัน ได้ว่าติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ ดังนั้น หากใคร ที่ไปได้รับความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อมา ควรเข้ารับ การตรวจให้เร็วที่สุด เพราะหากตรวจพบเชื้อ ในระยะเริ่มแรก ก็มีโอกาส ในการรักษา ให้หายขาดได้ เพื่อไม่ให้เชื้อเอชไอวี พัฒนาไปสู่ระยะ ที่ทำการรักษายาก หรือระยะเอดส์ นั่นเอง
การตรวจหาเชื้อเอชไอวีนั้น สามารถ ทำได้ไม่ยากมากนัก เพราะในปัจจุบัน ได้มี ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ออกมาจำหน่ายแล้ว เพื่อเป็น ทางเลือก ให้แก่ผู้ที่มี ความเสี่ยงแต่ไม่กล้า เดินทางไป ตรวจตามสถานพยาบาล ในทันที โดยสามารถ ทำการตรวจ คัดกรอง ได้ด้วยตนเอง ที่บ้านง่าย ๆ มีความปลอดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐาน รู้ผลได้ภายใน 15-20 นาที แนะนำเลือกที่มีเลขอย. และตรวจสอบให้แน่ชัดว่าถูกต้องหรือไม่
การตรวจคัดกรองเบื้องต้น จะทำให้เรา รู้ทราบถึงสถานะเลือด ของตนเองได้เร็วขึ้น และสามารถ เข้าตรวจยืนยัน ผลบวก ที่โรงพยาบาลได้ ทำให้มี โอกาส ในรักษาได้เร็ว ไม่เข้าสู่ ระยะเอดส์ หรือภาวะเอดส์ และสามารถ ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่น ได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย