กลัวติดเชื้อ HIV เครียด คิดไปเอง ว่าติด เอดส์ การดูแลและป้องกันตนเองให้ห่างไกลต่อการติดเชื้อHIV ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ทางเลือกใหม่ที่สามารถใช้ได้กับทุกคน

การดูแลและป้องกันตนเองให้ห่างไกลต่อการติดเชื้อHIV

ช่องทางที่ คนเรามัก จะได้รับเชื้อเอชไอวี มีอยู่ 3 ช่องทางหลัก ๆ ด้วยกันคือ การมีเพศสัมพันธ์ แบบไม่ป้องกัน ไม่ปลอดภัย ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และการที่ มารดาถ่ายทอดเชื้อให้ลูก ซึ่งถ้าเอาจริง ๆ แล้ว

ช่องทางที่คนเรามักจะได้รับเชื้อHIVมาส่วนใหญ่ คือ การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน

แน่นอนว่า เราคงไม่สามารถ ถามกับคู่นอน ทุกคนได้ว่า ที่ผ่านมาคุณมี พฤติกรรมทางเพศอย่างไร หรือ คุณเปลี่ยนคู่นอนบ่อยไหม สวมใส่ ถุงยางอนามัยทุกครั้ง รึเปล่า มีการป้องกัน แค่ไหน มีสถานะเลือด ทางเอชไอวี เป็นบวกหรือลบ คำถามเหล่านี้ ไม่สามารถ ที่จะถามได้เลยในทันที กับคู่นอนที่พึ่งเจอกัน ไม่นานแน่นอน

ทำให้เรา ไม่สามารถที่ จะรู้ได้เลยว่า ตนเองจะปลอดภัย หรือไม่ ทำได้แค่เชื่อใจ ไว้ใจ หรือปลอบกับตนเองว่า ไม่เป็นไรหรอก น่าจะปลอดภัย แต่เราก็รู้ดีกันว่า ทางออกที่ดีที่สุด คือ การป้องกันทุกครั้ง เมื่อมีเพศสัมพันธ์ นอกจาก จะช่วยให้ปลอดภัย จากการติดเชื้อHIV แล้ว ยังปลอดภัยจากการติดเชื้ออื่น ๆ ด้วย

ทั้งนี้การตรวจHIV เพื่อเช็คตนเอง อยู่เสมอก็ เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งปัจจุบัน เราสามารถตรวจHIV ด้วยตนเองได้แล้ว โดย อินสติ ชุดตรวจHIV ด้วยตนเอง เป็น ชุดตรวจ HIV ประเภทตรวจด้วยตนเอง (HIV Self Test) ที่ผ่าน อย.ไทย เป็นที่เรียบร้อย เลขที่อนุญาต 64-2-1-1-0000679 นำเข้าจาก ประเทศแคนาดา มาตรฐาน ระดับสากลทั้ง WHO Prequalified, CE Marked และ Health Canada

อินสติ (INSTI) ชุดตรวจHIV ด้วยตนเอง ใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่ไม่เหมือนใคร โดยลิขสิทธิ์เฉพาะ ของบริษัทผู้ผลิต ทำให้ได้ผลลัพธ์ ที่แม่นยำและรวดเร็วขึ้น สามารถอ่านผล ได้เลยใน 1 นาที

สามารถหาซื้อได้แล้ว วันนี้ที่ ร้านขายยาทั่วประเทศ ค้นหา ร้านขายยาจำหน่ายอินสติ ได้ที่  INSTIใกล้บ้านฉัน

หรือ สั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน Grab , LINE MAN , Foodpanda , Lalamove เข้าไปที่แอพแล้วเลือกร้าน Boots คำว่า อินสติ

อีกหนึ่งช่องทาง คือ สั่งซื้อผ่านทางผู้นำเข้าโดยตรง ได้ที่ Line OA: @insti Facebook: อินสติ insti ชุดตรวจเอชไอวี Shopee: INSTi_THAILANDHIVTEST Lazada: INSTi_THAILANDHIVTEST Tiktok: INSTi_THAILANDHIVTEST Line Shopping: insti Website: thailandhivtest.com

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการรักษาผู้ป่วยเอชไอวี ด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก จะยังไม่ได้มีการนำมาใช้กันในผู้ป่วยเอชไอวีทั่วไป ด้วยเหตุที่ว่า  ไม่ปลอดภัย ส่งผลต่อสุขภาพ ไม่ใช่ว่าสเต็มเซลล์ของคนที่มาบริจาคจะต้านเอชไอวีได้ทุกคน แต่อย่างน้อยการที่มีคนไข้ถึง 3 เคส หายจากการติดเชื้อเอชไอวีได้ ก็ถือเป็นการยืนยันว่า เอชไอวีสามารถรักษาให้หายขาดได้จริง ๆ เป็นความหวังให้กับมวลมนุษยชาติ ให้ทางการแพทย์พัฒนาค้นหาการรักษาเอชไอวีแบบเฉพาะที่ดีที่สุดที่ทุกคนสามารถใช้ได้ต่อไป

ตอนนี้ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีขอให้มีความหวัง และรักษาตนโดยการทานยาอย่างมีวินัย ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อรอการรักษาที่กำลังจะมาถึงในอนาคต