instil-hiv

ข้อควรรู้ก่อนการตรวจเอดส์ ไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไร

ข้อควรรู้ก่อนการตรวจเอดส์

                    ข้อควรรู้ก่อนการตรวจเอดส์ เอดส์/เอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ปัจจุบันยังคงไม่มียาที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงยาที่สามารถกรักษาให้ปริมาณไวรัสลดต่ำลง  และลดโอกาสเสี่ยงเสียชีวิต 

ดังนั้น หากท่านใดที่คาดว่าตนเองนั้น มีความเสี่ยง หรือโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ควรที่จะรีบเข้ารับการตรวจโดยไวที่สุด เพราะหากทราบสถานะเลือดของตนเองไว ก็จะสามารถวางแผนจัดการได้ไว 

เช่น หากผลเลือดเป็นบวก HIV ก็จะเข้าสู่การรักษาได้ไว โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ไม่เข้าสู่สภาวะเอดส์ สามารถใช้ชีวิตได้ดังปกติ มีอายุขัยยืนยาวดังเดิม

สำหรับใครที่กำลังกังวลเกี่ยวกับการตรวจเอชไอวี และไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไร วันนี้เรามี ข้อควรรู้ก่อนการตรวจเอดส์ มาฝากทุกคนกัน
 

     1. รู้ว่าตนเองมีความเสี่ยงหรือมีโอกาสได้รับเชื้อ HIV ไม่ว่าจะเคยมีเพศสัมพันธ์แบบไม่สวมใส่ถุงยางอนามัยกับบุคคลที่คาดว่ามีความสุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี หรือบุคคลที่เราไม่ทราบสถานะเลือดของเขา เคยใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น

     2. รู้ว่าการตรวจ คือ ทางออกที่ดีที่สุด การตรวจ AIDs/HIV ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะจะช่วยให้คุณคลายกังวล คลายความสงสัย สบายใจมากขึ้น และช่วยให้วางแผนชีวิตไปในทางที่ถูกได้ หันมาดูแลตนเองมากขึ้น

     3. ทราบว่าตนเองได้รับความเสี่ยงมานานเท่าไหร่แล้ว โดยนับจากเหตุการณ์ที่คาดว่าได้รับความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากการเข้ารับการตรวจเอชไอวี/เอดส์ จะต้องมีการสอบถามระยะเวลาเสี่ยงที่คุณมี เพื่อเลือกหลักการและวิธีตรวจให้เหมาะสมกับระยะเวลาเสี่ยง ซึ่งจะมีผลต่อโอกาสในการตรวจพบเชื้อ ช่วยให้การตรวจนั้นถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น โดยผู้ป่วยควรมีความเสี่ยงมาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และเทคโนโลยีใหม่ NAT สามารถตรวจพบเชื้อได้ตั้งแต่ 5-7 วัน (ใช้กันในกลุ่มคนที่มาบริจาคโลหิต)

     4. มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโรคที่ถูกต้อง และมีความรู้เกี่ยวกับวิธีการตรวจเลือดเอดส์/เอชไอวี หลักการและวิธีการที่ใช้ในการตรวจหาเชื้อเอดส์/เอชไอวี ตอนนี้มีมากมาย แต่ที่นิยมมากที่สุด คือ การตรวจเลือดเพื่อหาแอนติบอดีที่มีต่อเชื้อเอชไอวี

          – หากตรวจครั้งแรกแล้วพบว่าผลเลือดเป็นบวก (พบเชื้อ) จะต้องเข้ารับการตรวจอีกครั้ง เพื่อยืนยันผลตรวจ

          – หากตรวจครั้งแรกแล้วพบว่าผลเลือดเป็นลบ (ไม่พบเชื้อ) แพทย์จะนัดมาตรวจอีกครั้งที่ระยะเวลาเสี่ยง 3-6 เดือน เพื่อยืนยันผลให้ชัวร์

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ความเสี่ยงแต่ไม่ยอมตรวจอย่าคิดว่าตนเองไม่ติดเชื้อ เพราะมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อย ที่มีผลเลือดเป็นบวก (พบเชื้อ) แต่ไม่มีอาการ เนื่องจากไม่จำเป็นจะต้องมีอาการของโรคแสดงเสมอไป เพราะแต่ละบุคคลมีพื้นฐานสุขภาพไม่เท่ากัน บางรายอาจะใช้เวลาหลายปีกว่าจะแสดงอาการ

หากท่านใดที่ต้องการความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคสามารถโทรหาสายด่วน 1663 เพื่อขอรับคำปรึกษาแนะนำได้

 

     5. เตรียมตัว เตรียมใจ ทราบดีว่าผู้ที่จะเข้ารับการตรวจเอดส์/HIV คงจะรู้สึกกังวล เครียด และตื่นเต้นกับผลไม่ใช่น้อย แต่จะดีที่สุดหากเราต้องสติ ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นแล้ว เราได้รับความเสี่ยงมาแล้ว ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในตอนนี้ คือ เข้ารับการตรวจ เพื่อให้ทราบผลให้แน่ชัด และสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ และไม่ลืมที่จะให้กำลังใจตนเองเสมอ

การเข้ารับการตรวจเอชไอวี/เอดส์ ไม่จำเป็นต้องอดข้าว อดน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอและมาเข้ารับการตรวจได้เลย

     6. ทราบหรือไม่ว่าโรคเอดส์/เอชไอวี สามารถรักษาได้ แม้จะไม่หายขาด เมื่อทราบว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี อย่าพึ่งตัดกำลังใจตัวเอง เพราะมีผู้คนมากมายไม่ว่าจะในไทย หรือต่างประเทศ ไม่ว่าจะคนรวย มีชื่อเสียง หรือประชาชนทั่วไป ที่ติดเชื้อHIV แต่ยังสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ

เพียงท่านตัดสินใจเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง ปรึกษาแพทย์เมื่อพบเจอปัญหา ทานยาสม่ำเสมอไม่ขาด ท่านก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ อายุขัยยืนยาวดังเดิม ไม่มีอาการของโรคแสดง ไม่ต้องรอความตาย

     7. ยิ่งตรวจพบเร็ว ยิ่งดีต่อการรักษา การติดเชื้อในระยะแรกนั้น การรักษาจะเป็นไปได้ด้วยดี สามารถรักษาให้ปริมาณเชื้อลดต่ำลงได้เร็ว ลดโอกาสที่อาการของโรคจะแสดง และไม่แน่ในอนาคต ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาไม่สิ้นสุด และทีมแพทย์ที่มีความสามารถ อาจจะพบการรักษาโรคเอชไอวี/เอดส์ ให้หายขาดได้ โดยไม่ต้องทานยาไปตลอดชีวิต ซึ่งผู้ป่วยที่ดูแลรักษาตัวเองมาตั้งแต่แรกก็มีโอกาสที่การรักษาจะหายขาดได้เร็วแน่นอน ทั้งนี้หากผลตรวจออกมาเป็นบวก การชักชวนคู่นอนมาตรวจหาเชื้อด้วย ก็เป็นสิ่งที่ควรจะทำ

 

     8. ทราบหรือไม่ว่า AIDs/HIV ตรวจฟรี คนไทยสามารถเข้ารับการตรวจเอชไอวีได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง ที่สถานพยาบาลของรัฐ เพียงมีบัตรประชาชนไทย ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้แล้ว ในผู้ที่มีอายุต่ำว่า 18 ปี ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากผู้ปกครอง

     9. ทราบถึงสิทธิของผู้รับการตรวจ

          – มีสิทธิ์เข้ารับการตรวจฟรี ที่สถานพยาบาลของรัฐ

          – มีสิทธิ์สอบถามแพทย์ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เกี่ยวกับโรค ขั้นตอน และผลตรวจ จนกว่าจะเข้าใจ

          – ผลการตรวจไม่ว่าจะเป็นอย่างไร จะต้องเป็นความลับระหว่างแพทย์ และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง

          – ผู้รับการตรวจมีสิทธิ์ปฏิเสธที่จะขอไม่รับทราบผลตรวจได้

          – ไม่มีใครหรือผู้ใด ที่จะทราบผลการตรวจได้ จนกว่าจะได้รับความยินยอมจากเจ้าของผลตรวจ

     10. ในการตรวจเอดส์/เอชไอวี จะต้องลงชื่อยินยอมขอรับการตรวจเอดส์ เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีความเข้าใจเกี่ยวกับโรค ขั้นตอน และผลตรวจดีแล้ว มีโอกาสในการซักถามสิ่งที่สงสัย มีความประสงค์ยินยอมที่จะขอรับการตรวจ ไม่ได้มีการบังคับให้ตรวจ และได้รับการยืนยันว่า การขอรับการตรวจและผลตรวจจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล เป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้ เว้นแต่เป็นเรื่องทางกฎหมาย

     11. ราคาค่าใช้จ่าย ในกรณีตรวจที่สถานพยาบาลเอกชน โดยสามารถติดต่อสอบถามผ่านช่องทางต่าง ๆ ของโรงพยาบาลนั้นได้เลย รวมถึงข้อสงสัยต่าง ๆ ที่มี

นอกจากการเข้ารับการตรวจเอชไอวีกับทางสถานพยาบาลแล้ว หากยังไม่สะดวกใจไปตรวจที่สถานพยาบาลในทันที เพราะยังไม่มั่นใจว่าได้รับความเสี่ยงจริงหรือไม่ ท่านสามารถหาซื้อชุดตรวจคัดกรองเอชไอวี มาตรวจคัดกรองด้วยตนเองก่อนได้ 

ซึ่งไม่น่ากลัว เพราะตรวจจากเลือดปลายนิ้ว 2-3 หยด โดยเป็นการตรวจ Rapid Test อย่างง่าย ทราบผลภายในไม่กี่นาที โดยที่ท่านต้องทราบระยะเวลาเสี่ยงที่ได้รับ เพื่อให้สามารถเลือกซื้อชุดตรวจได้ถูกหลักการ ทั้งนี้ควรเลือกซื้อชุดตรวจที่มีคุณภาพ มีเลขอย.ไทยสามารถตรวจสอบได้

อย่างไรก็ตาม การตรวจ AIDs/HIV ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ท่านที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าตรวจดีหรือไม่ ไม่มั่นใจ สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจได้ หรือศึกษา ข้อควรรู้ก่อนการตรวจเอดส์ เพื่อให้ตนเองมั่นใจมากขึ้น และเตรียมพร้อมก่อนการไปตรวจ 

เนื่องจากหากปล่อยไว้เรื่อย ๆ  อาจจะทำให้ท่านเกิดความเครียดสะสม เสียสุขภาพจิต และหากว่าได้รับความเสี่ยงจริง ก็จะทำให้อาการของโรคดำเนินไปเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน