การดูแลตัวเองเมื่อติดเชื้อ HIV โรคเอดส์ (AIDS) เป็นภาวการณ์ป่วย ในขั้นสุดท้าย ของการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ที่เม็ดเลือดขาว ภายในร่างกาย ถูกทำลายลงไป ทำให้ผู้ป่วย มีภูมิคุ้มกัน ที่บกพร่อง และเสื่อมสภาพลง จนไม่สามารถ ต่อสู้กับเชื้อโรค ที่เข้าสู่ร่างกาย
ซึ่งอาจจะนำไปสู่ การเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่ทำให้ ผู้ป่วยเสีย ชีวิตลงได้ ฉะนั้น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี ก็ควรทำความเข้าใจ เกี่ยวกับ ภาวะของตนเอง และ ศึกษาวิธีการดูแลรักษาตนเอง อย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ ร่างกายได้รับความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อ ลุกลามไปสู่ภาวะโรคเอดส์ ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
1. ควรบอกคนรอบข้าง ว่าตนเองนั้น เป็นผู้ป่วย ติดเชื้อเอชไอวี ถึงแม้ว่า การเปิดเผยตนเอง อาจจะทำให้ผู้ป่วย มีความอึดอัดใจ และกังวลใจ แต่การบอกให้ครอบครัว เพื่อน บุคคลรอบข้าง หรือแม้กระทั่งคู่นอน
ควรบอก ให้ทราบว่าตนเองนั้น เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ เพราะทั้งตนแอง และคนรอบข้างจะได้เตรียมรับมือ กับปัญหา ที่เกิดขึ้น และปฏิบัติตามข้อควรระวังต่าง ๆ
2. การป้องกัน ตนเองจากการ ติดเชื้ออื่น ๆ เพิ่มเติม ควรหมั่นดูแลรักษาสุขภาพปาก และฟัน หลังจากที่รับประทาน อาหารทุกครั้ง โดยการกลั้วคอ และบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ การรักษาโรคเหงือก และฟันที่เป็นอยู่ ควรไปตรวจ สุขภาพช่องปาก กับทันตแพทย์ปีละครั้ง
และไม่ใช้ เข็มฉีดยา ร่วมกับ ผู้อื่น ป้องกัน ขณะมีเพศสัมพันธ์ ไม่ควรอยู่ใกล้ผู้ป่วยโรคอื่น ๆ เพราะผู้ติดเชื้อเอชไอวี จะมีภูมิต้านทาน ที่ต่ำกว่าคนปกติ จึงอาจทำให้ เกิดโรคได้ง่าย
3. รับประทานอาหาร ตามที่แพทย์สั่ง อย่างเคร่งครัด ตรงเวลา ผู้ติดเชื้อ ควรเริ่มเข้ารับ การรักษาทันที เมื่อทราบว่า ตนเองนั้น ติดเชื้อเอชไอวี และควรรับประทานยา ตามที่แพทย์สั่ง อย่างเคร่งครัด เพราะการรับประทานยา อาจจะช่วยใน การชะลอการเจริญเติบโต ของเชื้อเอชไอวี ป้องกันระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และลดโอกาส ในการแพร่ เชื้อเอชไอวี ไปสู่ผู้อื่นได้
นอกจากนี้ ผู้ป่วยเองก็ควร มาพบแพทย์ เพื่อติดตามผล การรักษา ของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แพทย์ประเมินอาการ และเฝ้าระวัง ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น จากการใช้ยาได้ โดยแพทย์อาจตรวจเลือด เพื่อติดตามปริมาณเชื้อเอชไอวี ในร่างกาย
4. การ ออกกำลังกายอย่าง เหมาะสม การออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพ ให้แข็งแรง ส่งเสริมสุขภาพจิต และบุคลิกภาพที่ดีแล้ว ยังช่วยกระตุ้น ให้ระบบการเผาผลาญ อาหารของผู้ติดเชื้อเอชไอวี สามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
5. การดูแลตัวเอง ในด้านสุขภาพจิต อาจเป็นเรื่องปกติ ที่ผู้ป่วยติดเชื้อ จะมีความรู้สึกเครียด และวิตกกังวลเป็นอย่างมาก หลังจากที่รู้ว่า ตนเองนั้นติดเชื้อเอชไอวี โดยส่วนใหญ่ ผู้ป่วยติดเชื้อ อาจไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านสุขภาพจิต
เช่น จิตแพทย์ นักจิตวิทยา อีกทั้งยังรวมไปถึง การเข้าร่วมกลุ่มพูดคุย ให้คำปรึกษาต่าง ๆ ตามสังคมออนไลน์ เพื่อรับคำแนะนำ ที่เป็นประโยชน์ คลายความกังวล และส่งเสริม กำลังใจจากผู้ที่เห็นอกเห็นใจ หรือมีประสบการณ์เดียวกัน
การดูแลตัวเองเมื่อติดเชื้อHIV จากข้างต้นที่กล่าวมา โรคเอดส์ หรือเอชไอวีไม่ได้น่ากลัว หรือน่ารังเกียจอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิด เพราะผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี ก็จำเป็นที่จะต้องได้รับกำลังใจ ในการต่อสู้กับโรคซึ่ง
นอกจากร่างกาย จะต้องแข็งแรงแล้ว จิตใจก็ต้องเข้มแข็ง แข็งแรงด้วย ฉะนั้นหากเราไม่เข้าใจว่า โรคของเขาคืออะไร ก็เพียงแค่ระมัดระวัง ไม่ใช่รังเกียจ ดังนั้น สิ่งที่ควรจะทำ คือ สนับสนุนและให้กำลังใจกับพวกเขา เพื่อให้มีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคร้ายนี้ไปให้ได้
หากใครมีความกังวล ว่าตนเองมีความเสี่ยง ในการติดเชื้อ ก็ควรทำการตรวจ คัดกรองเบื้องต้น ด้วยชุดตรวจคัดรองด้วยตนเอง ที่มีความแม่นยำ ปลอดภัย มาตรฐานเดียวกัน กับโรงพยาบาล มาตรวจเพื่อความสบายใจ และคลายความกังวลใจ
เพราะหากรู้ผลตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะเข้ารับการรักษา และเตรียมรับมือได้ทัน ทั้งนี้ ก็ควรหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพควบคู่ไปด้วย เพื่อจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงยิ่งขึ้น