ตรวจ HIV โรงพยาบาลเอกชน ราคา เท่าไหร่ สำหรับหลาย ๆ ท่าน ที่กำลังสงสัยว่าตนเองได้รับความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี และต้องการเข้ารับการตรวจ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าไปตรวจที่ไหนดี วันนี้เรามีมาแนะนำให้ทุกคนได้ใช้ประกอบการตัดสินใจ

“…การตัดสินใจเข้ารับการตรวจเอชไอวีนั้น เป็นเรื่องที่คิดหนักสำหรับหลาย ๆ คน นอกจากความกล้า ความมั่นใจ ที่จะเข้ารับการตรวจแล้ว การเตรียมตัวเตรียมความพร้อมเกี่ยวราคา ค่าใช้จ่าย ของแต่ละสถานพยาบาล ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน…”

ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมราคาเริ่มต้นของสถานพยาบาลแต่ละรูปแบบมาไว้แล้วดังต่อไปนี้

โรงพยาบาลเอกชน และสถานพยาบาลเอกชน

ตรวจ HIV โรงพยาบาลเอกชน ราคาเท่าไหร่ การตรวจเอชไอวีมีหลากหลายรูปแบบวิธี ทำให้มีราคาค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป

– ตรวจแบบ HIV rapid test ราคา เริ่มต้นที่ 800 บาท

– ตรวจแบบ PCR ราคา เริ่มต้นที่ 4,000 บาท

– ตรวจแบบ HIV Viral Load (VL) ราคา เริ่มต้นที่ 4,000 บาท

– ตรวจแบบ CD4 ราคา เริ่มต้นที่ 1,000 บาท

คลีนิคนิรนาม

สถานพยาบาลพิเศษที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้คำปรึกษา ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศอื่น ๆ เช่น โรคซิฟิลิส โรคไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น โดยมีบริการตรวจโรคให้ด้วยเช่นกัน

ซึ่งการตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีที่นี่จะเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 07.30 – 18.00 น. นอกจากนี้ยังเปิดคลินิกพิเศษนอกเวลา ทุกวันพุธและศุกร์ เวลา 16.30 – 19.00 น. และวันเสาร์เวลา 8.30 – 15.00 น. รูปแบบการตรวจจะมี 2 วิธี ได้แก่

– การตรวจแบบสามารถทราบผลได้ภายในวันเดียว มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 200 บาท (หากนอกเวลาจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)

– การตรวจด้วยวิธี DNA-PCR มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 1,500 บาท (หากนอกเวลาจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)

โรงพยาบาลรัฐ และสถานพยาบาลของรัฐ

หลาย ๆ คน อาจจะยังไม่ทราบว่า ปัจจุบันนี้ท่านสามารถเข้ารับการตรวจเอชไอวีได้ฟรีถึงปีละ 2 ครั้ง เพียงแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ในกรณีนี้ผู้ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี  ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองก่อน

การตรวจคัดกรองด้วยตนเอง

นอกจาก การตรวจ จากสถานพยาบาลแล้ว อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ คือ การตรวจคัดกรองด้วยตนเอง ซึ่งจะเป็นการตรวจแบบ  Rapid test ง่าย ๆ รวดเร็ว รู้ผลได้ภายไม่กี่นาที สามารถ ทำได้ด้วย ตนเองที่บ้าน หรือที่ ๆ สะดวก

เนื่องด้วย เป็นการตรวจคัดกรอง หากตรวจแล้วพบว่าผลออกมา เป็นบวก ให้ดำเนินการเข้าตรวจยืนยัน ผลที่โรงพยาบาลทันที แต่หากผลออกมา เป็นลบก็สามารถ สบายใจได้ เพียงแต่ต้องเลือกเวลาตรวจ ในระยะความเสี่ยง ที่เหมาะสม อย่าตรวจเร็วเกินไป เพราะผลที่ได้อาจจะเป็นผลลบปลอม

อย่างไรก็ตาม หากผลเป็นลบแล้วยังคงไม่สบายใจ ท่านสามารถ ตรวจซ้ำได้ อาจจะเลือก เป็นตรวจซ้ำอีกครั้ง ที่  90 วัน  หรือเร็วกว่านั้น คือ 45 วัน แต่ตามหลัก การแพทย์นั้น จะแนะนำให้ ตรวจเช็คที่  90 วัน

ถึงแม้ว่าการตรวจคัดกรองด้วยตนเองจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง คือ ชุดตรวจจะต้องมีมาตรฐาน และผ่านอย. มีเลขอย. ที่สามารถตรวจสอบได้ตรงกับชื่อผลิตภัณฑ์ ดังนั้นจึงควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ

เพราะหากสินค้า ไม่ได้มีคุณภาพ ผลตรวจที่ออกมา ก็ไม่มีคุณภาพ เช่นกัน หากเป็นผลลบ ก็อาจจะเป็นผลลบปลอม และทำให้เข้าใจผิด ว่าตนเอง ไม่ได้ติดเชื้อ และใช้ชีวิต ต่อไปอย่าง ไม่ได้ระมัดระวัง แพร่เชื้อให้ผู้อื่น และป่วยในระยะรุนแรงในภายหลัง