ใบ ผลตรวจเอดส์ การตรวจหาเชื้อเอชไอวี (HIV) หรือโรคเอดส์ (AIDS) ปัจจุบัน สามารถทำได้หลายวิธี ด้วยกัน ซึ่งการเข้ารับ การตรวจหาเชื้อนับ เป็นเรื่องที่ดี เพราะนอกจาก จะทำให้เรารู้ทราบ ถึงสถานะร่างกายของตนเอง ได้เร็วแล้ว ยังมีโอกาสรักษา ให้ไม่แสดงอาการ และลดการ แพร่กระจายเชื้อ ไปสู่ผู้อื่น ได้อีกด้วย
เพราะโรคเอชไอวี ถือเป็น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่มีความร้ายแรง เป็นอย่างมาก หากร่างกาย ของเราได้รับเชื้อ เข้าไปแล้ว และไม่ทำการ รักษาเชื้อ อาจลุกลาม ไปสู่ระเอดส์ได้
ใบ ผลตรวจเอดส์ ปัจจุบันนอกจากการ เข้ารับการตรวจจะ เป็นเรื่องที่ยากแล้ว การทำความเข้าใจ เกี่ยวกับในผลตรวจเอดส์ ก็เป็นเรื่องที่ยากมา เช่นกัน เพราะปัจจุบัน มีควนจำนวนไม่น้อย ที่ได้เดินทางไปตรวจหา เชื้อเอชไอวีตาม โรงพยาบาล แต่ส่วนใหญ่แล้ว มักที่จะไม่เข้าใจใบผลตรวจ ที่ทางแพทย์ให้มา
ซึ่งก็เป็นคำถาม ที่พบได้ บ่อยมาก ๆ ว่าใน ใบผล ตรวจเอดส์ นั้น จะบ่งบอกถึงสถานะร่างกายของผู้ป่วยอย่างไรบ้าง และอาจทำให้ใครหลาย ๆ เกิดความสับสน และไม่เข้าใจว่าตนเองนั้นติดเชื้อหรือไม่ เพราะเนื่องจากว่าการตรวจหาเชื้อในแต่ละรูปแบบนั้นก็มีวิธีการ ที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น
– Anti-HIV (stat) : Negative ซึ่งเป็นการแปลผลตรวจภูมิคุ้มกัน เอดส์ได้แบบ ทันที หากได้ผลลบ แปลครั้งที่สองว่า ไม่มีภูมิคุ้มกัน เชื้อเอดส์ แปลครั้งที่สาม ก็ไม่มีภูมิคุ้มกัน เอดส์ ก็ไม่น่าจะติดเชื้อเอดส์ ยกเว้นแต่ว่า พึ่งไปได้รับเชื้อมาหมาด ๆ และร่างกาย ยังไม่สร้างภูมิคุ้มกัน ขึ้นมา
– การตรวจหาเชื้อ ไวรัส ECLIA วิธีการนี้ จะสามารถตรวจได้เลยทันที โดยไม่ต้อง ระยะฟักตัว (window period) ดังนั้น จากเดิมที่ต้องรอ ให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ก่อนประมาณ 3 เดือน แต่หากตรวจ ด้วยวิธี จะสามารถร่น ระยะเวลาให้เหลือเพียงแค่ 28 วันเท่านั้น
– Non-reactive หรือ Negative ผลเป็นลบ หมายความว่า ไม่พบการติดเชื้อ
– Reactive หรือ Positive ผลเป็นบวก หมายความว่า พบการติดเชื้อ
– Invalid ไม่สามารถแปลผลได้ การตรวจสอบไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ หากผลตรวจออกมาเป็น Invalid ผู้ป่วยต้องทำการตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อยืนยันผล หรือหากผลตรวจออกมาเป็น Non-reactive หรือ Negative (ผลเป็นลบ) ก็อาจเป็นช่วงที่ร่างกาย ยังไม่ทำการสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ต่อเชื้อเอชไอวี แต่ผลตรวจ ที่จะออกมาเป็นแบบนี้ ก็ถือว่าน้อยมาก ๆ
อย่างไรก็ตาม หากรู้ตัวว่า ตนเองมีความเสี่ยง ปัจจุบันก็ได้มี ชุดตรวจ HIV ด้วยตนเอง วางจำหน่าย เพื่อเป็นทางออก ให้ประชาชนทั่วไป ที่มีความเสี่ยง สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยชุดตรวจจะ มีความปลอดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐาน รู้ผลได้ใน 15 – 20 นาที
ดังนั้น ควรเข้ารับการตรวจ โดยเร็ว เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ไปสู่ผู้อื่น และหากตรวจเจอ เชื้อ ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็มีโอกาส ในการรักษา และรับยาต้านได้ อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม การใช้ ชุดตรวจเอชไอวี ด้วยตนเอง เป็นเพียงการตรวจ คัดกรองเบื้องต้น ไม่ว่าผลตรวจ จะออกมาเป็นอย่างไร ก็ควรที่จะทำการตรวจ ซ้ำอีกครั้ง และหากเป็นผู้ที่มี โอกาสเสี่ยงบ่อย ก็แนะนำให้ตรวจเช็คทุก ๆ เดือน