instil-hiv

ไปเสี่ยงมา Pantip ว่าอย่างไร กับคำถามเกี่ยวกับ การได้ไปเสี่ยงรับเชื้อเอชไอวี

ไปเสี่ยงมา Pantip

ไปเสี่ยงมา Pantip ว่าอย่างไร หากมีเพื่อนคนนึงได้ ตั้งคำถามว่า ตนเองได้ไปเสี่ยงรับเชื้อเอชไอวี พร้อมบอกเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อน ๆ ชาวพันทิปจะแนะนำและแสดงความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง วันนี้เรารวบรวม และคัดเลือกมาให้แล้วไปดูกันเลย

 

คำแนะนำและความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ใน Pantip

     – ประเด็นคือ แผลในปาก กระพุ้งแก้ม เหงือก ริมฝีปาก อาจทำให้ติดเชื้อได้ ถ้าไม่มั่นใจ ชุดตรวจ HIV ก็มีขาย ตรวจได้เลย

     – ไม่ต้องรีบไปโรงพยาบาลครับ ตรวจตอนนี้ก็ไม่เจอ รอไปก่อน 2-3 อาทิตย์

     – ไปขอยาต้านไวรัส เป็นหลัก ยา PEP หรือยาต้านไวรัส HIV ฉุกเฉิน ต้องใช้ภายใน 72ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพ

     – จากที่ผมหาข้อมูลมา ถ้าตรวจเลือดหลังจากเสี่ยงติดเชื้อ 4 สัปดาห์ ผลที่ออกมาเชื่อถือได้ครับ

     – ใช้น้ำยา Gen4 ตรวจที่นี่ถ้าเสี่ยงเลย 4 สัปดาห์ ก็คือ ปิดเคสครับ รอด 100%

นี่เป็นเพียงตัวอย่างของความคิดเห็นที่ทาง Thaimedicalplus คัดเลือกและรวบรวมมาให้โดยเห็นว่ามีประโยชน์และตอบข้อสงสัยได้มากที่สุด ซึ่ง ไปเสี่ยงมา Pantip ก็จะแนะนำให้รับยา PEP ภายใน 72 ชั่วโมง ที่ได้รับความเสี่ยง และหากตรวจเร็วเกินไปก็อาจจะตรวจไม่พบ และแนะนำให้ใช้ ชุดตรวจHIV

 

ปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี (HIV) หรือการป่วยเป็นโรคเอดส์ (AIDS) เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นจำนวนมาก และในปัจจุบันยังเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ 

อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่า โรคเอชไอวี (HIV) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ถือว่ามีความร้ายแรงเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากเป็นไวรัสที่หากเข้าสู่ร่างกายของเราแล้ว เชื้อจะกระจายไปทั่วร่างกาย และเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว 

จนส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง ทำให้ร่างกายของผู้ป่วยนั้นอ่อนแอ และเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย อาทิเช่น วัณโรค โรคปอดอักเสบ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองโต โรคเกี่ยวกับสมอง หรือบางครั้งอาการอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

ระยะของการติดเชื้อเอชไอวีจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ

      – ระยะเฉียบพลัน เป็นระยะแรกที่ร่างกายได้รับเชื้อมาแล้วประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยในระยะนี้เชื้อไวรัสจะเพิ่มจำนวน

มากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลให้เซลล์ CD4 ลดลงอย่างรวดเร็วมากเช่นกัน ซึ่งผู้ป่วยในระยะนี้จะมีอาการ

คล้ายกับเป็นไข้หวัดใหญ่ มีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีผื่นขึ้น หรือต่อมน้ำเหลืองโต 

และในระยะนี้มีความเสี่ยงสูงมากที่จะแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่น

     – ระยะสงบทางคลินิก ในระยะนี้เชื้อจะยังไม่แสดงอาการให้เห็น หรือไม่แสดงอาการใด ๆ เลย 

จะมีก็เพียงแต่อาการเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น แต่ในระยะนี้เชื้อจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น และคอยทำลายภูมิคุ้มกันร่างกายอยู่ตลอด

 ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 10 ปี

     – ระยะโรคเอดส์ เป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันร่างกายได้ทุกทำลายลงอย่างหนัก 

หรือมีปริมาณของเซลล์ CD4 ที่ต่ำกว่า 200 จากคนปกติทั่วไปมี 500-1,600 ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นได้ง่าย

 เพราะเนื่องจากร่างกายอ่อนแอ และมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำจนไม่สามารถต้านทานต่อเชื้อโรคที่เข้าไปสู่ร่างกายได้

 

ส่วนใหญ่กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด จะเป็นกลุ่มของวัยรุ่นช่วงอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป 

เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีโอกาสที่จะมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมใส่ถึงถุงยางอนามัย และยังเป็นช่วงวัยที่ยังคง

มีความต้องการทางเพศมากที่สุด จึงมีโอกาสในการติดเชื้อทางการมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย แต่ไม่ว่าเพศไหนวัยไหน

 ก็มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้เช่นกัน

 

ดังนั้น การเข้ารับการ ตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ เป็นทางเดียวที่จะคลายความกังวลใจได้ 

ซึ่งในปัจจุบันนี้การตรวจหาเชื้อก็มีให้เลือกได้หลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีความแม่นยำหรือไม่ 

ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการรับเชื้อมาด้วย ทั้งนี้ หากใครที่รู้ตัวว่าไปมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมา 

ควรเข้ารับการตรวจหาเชื้อโดยเร็ว

 

ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ยังมี ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง วางจำหน่าย เพื่อเป็นทางออกให้กับผู้ที่มีความเสี่ยง 

และผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการตรวจ โดย ชุดตรวจHIV นี้จะใช้ในการตรวจคัดกรองสำหรับผู้ที่ต้องการรู้ผลทันที 

และต้องการความเป็นส่วนตัวในการตรวจ

 

อย่างไรก็ตาม หากไปเสี่ยงมาและทำการตรวจโดยเร็ว ไม่ว่าจะตรวจด้วย ชุดตรวจ HIV เพื่อคัดกรองว่า

มีความเสี่ยงจริงหรือไม่ หรือไปตรวจที่สถานพยาบาลเลยก็ตาม นอกจากจะช่วยคลายความกังวลใจแล้ว 

ยังคงช่วยให้เรารู้ทราบถึงสถานะร่างกายตนเองได้เร็ว เพราะหากตรวจเจอเชื้อก็ยังมีอากาสในการรักษาเชื้อเอชไอวี

ไม่ให้ลุกลามไปสู่ระยะที่รักษายาก หรือระยะโรคเอดส์ และเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นได้อีกด้วย